โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมจากศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดบ้านเจอกับทีม แอตเลติโก มาดริด ทีมจาก ลาลีกา สเปน ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม สุดท้าย นัดที่สอง หลังจากที่นัดแรกนั้น ดอร์ทมุนด์ บุกไปแพ้มาก่อน 2-1 ทำให้ในเกมนี้ทีมต้องการชัยชนะด้วยผลต่าง 2 ลูก เพื่อเข้ารอบ ส่วนทีม แอตเลติดฏ มาดริด แค่เสมอก็เข้ารอบแล้ว
ดอร์ทมุนด์ เจอ แอตฯ มาดริด จัดชุดใหญ่ใส่กันเต็มที่
เกมนี้ทาง เอดิน แทร์ซิซ กุนซือใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม กองหน้านำโดยทาง นิโคลัส ฟรุงเคิ่ล ใช้ทาง ยูเลี่ยน บลันดท์,เจดอน ซานโช่ และทาง คาริม อเดยีมี่ เล่นตัวรุกอยู่ด้านหลัง ส่วนกลางรับสองใช้ทาง มาแซล ซาบิตเซอ คู่กับ เอร็มเร่ ชานส่วน แผงหลังสี่คนมีทาง มัตซ์ ฮุมเมิ่ลส์ ยืนคู่กับทาง ชล็อตเทอร์แบร์ก ส่วน แบ็คซ้าย-ขวา เป็นทาง เอียน มาร์เซ่น กับทาง ไรเออร์สัน
ด้านทาง ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือทีม แอตเลติโก มาดริด ก็มาชุดใหญ่เช่นกัน จัดให้ทาง อัลบาโร่ โมราต้า ยืนหน้าคู่กับทาง อองตวน กรีซมันน์ มิดฟิลด์อัดแน่น 3 คน ใช้ทาง โรดิโก เดอ ปอล,โกเ้ และทาง ยอเรนเต้ เล่นร่วมกัน วิงแบกซ้าย-ขวา ใช้ เซซ่าร์ อัซปิปลป้วยต้าร์ กับทาง โมลิน่า เซนเตอร์แบ็ค 3 คน ใช้ มาริโอ เออร์โมโซ, มาเรีย ฆิมิเนซ และ อั๊กเซล วิตเซล เน้นเกมรับเต็มที่ ส่วนนายทวารเป็นทาง แยน โอบลัค จอมหนึบตนเดิม
เปิดฉากในครึ่งแรก นาทีที่ 5 ทีมเยือนเกือบได้ประตุนำ เมื่อ โมราต้า หลุดเข้าชิพข้ามนายทวารของ ดอร์ทมุนด์ ออกหลังไปนิดเดียว จากนั้นทั้งสองทีมก็หาจังหวะเข้าทำกันได้หลายที แต่เป็นทาง ทัพ เสือเหลือง ที่จะแจ้งกว่า จนในนาทีที่ 34 ก็มาได้ประตูขึ้นนำ เมื่อทาง ฮุมเมิ่ลส์ เติมขึ้นมาหน้าเขตโทษ ยกบอลข้างไลน์กองหลังให้ทาง บลันดท์ เกี่ยวบอลลง พลิกตัวยิงด้วยซ้าย แม้ว่า โอบลัค จะปัดได้ แต่บอลก็ยังปลิ้นเข้าประตูไป
หลังจากได้ประตูขึ้นนำแล้ว เสือเหลือง เหมือนได้นำยาบำรุงเพิ่มเข้าไป ก็เร่งเครื่องเดินหน้าต่อไปรอใครและก็มาได้ประตู ขึ้นนำ 2-0 ในาทีที่ 39 คราวนี้เป็นทา มาแซ่น ที่เติมขึ้นมาเล่นเกมรุก รับบอลจากทาง ซาบิตเซอ แตะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ยิงด้วยซ้าย เสียบเสาสอง พาทีม ดอร์ทมุนด์ ขึ้นนำ 2-0 พร้อมกับจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้เลย
เริ่มในครึ่งหลังกันต่อ
พอมาในครึ่งหลัง แอตฯ มาดริด อยู่ไม่ได้แล้ว เปลี่ยยตัวสามคนรวด ส่งทาง อังเคล คอร์เรอาร์,พาโบล บาร์ริออส และทาง โรดิโก้ ริเกลเม่ ลงสนามมา หลังจากที่เริ่มครึ่งหลังมาได้ในนาทีที่ 49 ทาง แอตฯ มาดริด ก็มาได้ประตูตีไข่แตก เมื่อทาง มาริโอ เออร์โมโซ่ โหม่งลูกเตะมุมที่เสาสอง โดนทาง มัตซ์ ฮุมเมิ่ลส์ สัดเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ทำให้ แอตฯ มาดริด ตีตื้นมาเป็น 2-1
จากนั้นมาเล่นกันต่อทาง แอตฯ มาดริด เหมือนบอลได้ใจ เดินหน้าเอาประตูต่อไปทันที ซึ่งทำได้สำเร็จในนาที่ 64 คราวหน้าเป้นทางตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาอย่า โรดิโก้ ริเกลเม่ ที่ยิงเข้าไปแล้ว ติดเซฟของ โคเบล กระดอนมาเข้าทาง คอร์เรอา ที่ยิงซ้ำ แต่ติดบล็อก แต่บอลเจ้ากรรมยังเป็นใจ กระดอนมาเข้าทาง คอร์เรอา อีกครั้ง คราวนี้กดตูมเสยเพดานเข้าไป ทำให้ แอตฯ มาดริด ตีเสมอ 2-2 จบสกอรืนี้ แอตฯ มาดริด เข้ารอบทันที
แต่เมื่อบอลยังไม่สิ้นเสียงนกหวีด ดอร์ทมุนด์ ก็ไม่ยอมแพ้ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 71 คราวนี้เป็นทาง มาแซล ซาบิตเซอร์ ที่ได้ครอสบอลจากด้านซ้ายเข้าไปที่หน้าประตู แล้วเป้นทางกองหน้าอย่าง นิดคลัส ฟืลล์ครุกก์ โฉบเข้ามาโหม่งสะบัดเสียเสาสองชนิดที่ แยน ดอบลัค ได้แต่ใช้สายตาป้องกัน ทำให้ ดอร์ทมุนด์ ขึ้นนำ 3-2
เจอแบบนี้ ตราหมี เองก็อยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว วางแผนเดินหน้าบุกเข้าใส่ เสือเหลือง ทันที แต่ก็มาโดนยิงหนีห่างไปเป็น 4-2 จน ได้คราวนี้เป็นทาง มาแซล ซาบิตเซอ ที่เกมนี้เล่นได้โดดเด่นอย่างมาก เก็บตกบอลที่ทางกอ
หลัง แอตฯ มาดริด สกัดออกหน้าเขตโทษ เตะเข้าเขตดทษหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะยิงด้วยซ้าย เสียเสาสองเข้าไป โอบลัค ปัดโดนปายมือแต่ก็เอาไม่อยู่ ส่งทัพ เสือเหลือง ขึ้นนำห่าง 2 ลูก อีกครั้ง
ในช่วงที่เหลือแม้ว่าลูกทีมของ เอล โชโล่ จะพยายามบุกใส่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถเจาะตาข่ายได้อีกแล้ว ส่งผลให้ ดอร์ทมุนด์ ชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 สกอร์รวม 2 นัด ชนะที่ 5-4 เข้าสู่รอบตัดเชือกไปได้อย่างงดงาม โดยที่มีโปรแกรมลงเล่นอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนนี้