ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน เชลซี 3-0 เปแอสเช ชัยชนะศึกชิงแชมป์สโมสรโลก

ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน เชลซี 3-0 เปแอสเช

แฟนบอลทั่วโลกต้องทึ่ง! เชลซีโชว์ฟอร์มสุดเฉียบในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ด้วยการถล่ม ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน เชลซี 3-0 เปแอสเช ที่สนามเม็ตไลฟ์ สเตเดียม ประเทศสหรัฐอเมริกา เพียงครึ่งแรก เชลซีก็เดินหน้ากดดันจนได้ผล โคล พาล์มเมอร์ และ ฌูเอา เปโดร เป็นหัวใจสำคัญในแนวรุก พาทีมซัดสามประตูแบบไม่ให้ PSG ได้ตั้งตัว นี่คืออีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความทรงจำของแฟนสิงห์บลูส์ทั่วโลก ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการคว้าแชมป์สโมสรโลกเท่านั้น แต่ยังถือเป็นถ้วยรางวัลที่สองของฤดูกาลนี้สำหรับเชลซี ตอกย้ำการกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งภายใต้การนำทีมของโค้ชใหม่ และพลังของนักเตะเลือดใหม่

ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน เชลซี 3-0 เปแอสเช ซิวแชมป์สโมสรโลกสุดยิ่งใหญ่

ไม่มีใครคาดคิดว่าเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่สนามเม็ตไลฟ์ สเตเดียม จะกลายเป็นค่ำคืนของเชลซีไปอย่างหมดจด เมื่อพวกเขาเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบเด็ดขาด 3-0 หลายคนมองว่า PSG คือทีมที่เหนือกว่าทั้งบนกระดาษและจากผลงานที่ผ่านมา พวกเขาครองเกมเหนือคู่แข่งแทบทุกทีมในช่วงไม่กี่เดือนก่อนเกมนี้ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของเชลซีเลยแม้แต่น้อย ชัยชนะสุดเซอร์ไพรส์นี้ ไม่เพียงมอบถ้วยแชมป์ให้เชลซีเท่านั้น แต่มันคือการประกาศว่า “สิงห์บลูส์” กลับมาแล้ว! พร้อมกลับมาเป็นหนึ่งในขาใหญ่ของวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้งแบบสง่างาม

ชูเอา เปโดร

เชลซีเปิดเกมรุกดุดัน! ชูเอา เปโดร ปั่นป่วนแนวรับ PSG ตั้งแต่เริ่ม

ทัพสิงห์บลูเริ่มต้นเกมรอบชิงชนะเลิศได้อย่างกระฉับกระเฉง ไม่เสียเวลาในการสร้างความกดดันใส่ปารีส แซงต์ แชร์กแมงตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน โดยเฉพาะชูเอา เปโดร ที่เล่นด้วยความกระตือรือร้น ไล่บีบแนวรับของเปแอ็สเฌไม่ให้มีเวลาตั้งเกม วิตินญ่า ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากแผนของเชลซี โดยพยายามสกัดกั้นบทบาทของมิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสไม่ให้มีอิทธิพลต่อเกม ซึ่งทำได้สำเร็จในช่วงต้นจนทำให้ PSG เจอปัญหาในการครองบอลและควบคุมจังหวะเกม

โคล พาล์มเมอร์

บลูส์ขึ้นนำ! จังหวะสุดคมของ พาล์มเมอร์ จากแอสซิสต์กุสโต

เชลซีเป็นฝ่ายที่เบิกสกอร์แรกได้สำเร็จในเกมนี้ จากจังหวะบุกที่มีจังหวะต่อเนื่องและเต็มไปด้วยความเฉียบคม มาโล กุสโต แบ็กขวาดาวรุ่งโชว์สปีดพาบอลขึ้นหน้า ก่อนพยายามยิงแต่ถูกแนวรับบล็อกไว้ได้ บอลกระดอนกลับมาเข้าทางกุสโตอีกครั้งโดยไม่คาดคิด และเขาก็ไม่รอช้า ส่งบอลให้โคล พาล์มเมอร์ ที่แต่งจังหวะก่อนปั่นบอลโค้งเข้าเสาไกลอย่างเหนือชั้น ผ่านมือจานลุยจิ ดอนนารุมมาอย่างไร้โอกาสป้องกัน ประตูนี้ไม่เพียงสร้างความได้เปรียบให้เชลซี แต่ยังจุดประกายความมั่นใจให้ทีมควบคุมเกมได้อยู่หมัด

พาล์มเมอร์

พาล์มเมอร์ เบิ้ลสอง! เชลซีบุกหนักต่อเนื่องจน PSG ไปไม่เป็น

หลังจากขึ้นนำได้สำเร็จ เชลซียังเดินหน้าไล่บดไม่พัก ความมั่นใจของผู้เล่นพุ่งถึงขีดสุด และเพียงไม่นาน พวกเขาก็มาได้ประตูที่สองแบบสายฟ้าแลบ ทำเอาผู้เล่น PSG ถึงกับอึ้งกับความเร็วและแม่นยำของเกมบุกฝั่งตรงข้าม โคล พาล์มเมอร์ ที่เพิ่งยิงประตูแรกไปหมาด ๆ กลายเป็นพระเอกอีกครั้ง เมื่อเขายิงประตูที่สองให้ทีมได้อย่างเฉียบคม สร้างความได้เปรียบแบบท่วมท้นในช่วงเวลาสำคัญ และทำให้แนวรับของเปแอสเชเริ่มเสียสมดุลอย่างเห็นได้ชัด

เชลซี

เปแอสเชไม่ยอมง่ายๆ แต่เชลซีแน่นปึ้ก ก่อนชูเอา เปโดรปิดครึ่งแรกสุดโหด

แม้เชลซีจะขึ้นนำสองประตูอย่างรวดเร็ว แต่เกมในสนามยังไม่จบง่ายๆ เพราะปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไม่ได้ยอมแพ้แบบง่ายดาย พวกเขาพยายามบุกเจาะแนวรับของเชลซีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แผนการรับของเอ็นโซ มาเรสกา ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในจังหวะ “กลางบล็อก” ที่ทั้งทีมยืนตำแหน่งอย่างมีระเบียบและป้องกันได้แน่นหนา ก่อนหมดครึ่งแรกเพียงไม่กี่นาที เชลซีก็ซัดประตูที่สามได้สำเร็จ โดยเป็นชูเอา เปโดร ดาวยิงหน้าใหม่ที่ยิงเข้าไปในนาทีที่ 43 ทำให้ครึ่งแรกจบลงอย่างน่าประทับใจสำหรับแฟนสิงห์บลูส์

โรเบิร์ต ซานเชซ

ครึ่งแรกคือฝันร้ายของเปแอสเช – เชลซีเล่นได้อย่างไร้ที่ติ

ครึ่งแรกของเกมนัดชิงชนะเลิศกลายเป็นภาพที่น่าตกใจสำหรับแฟนบอลเปแอสเช เพราะทีมรักของพวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้แสดงศักยภาพ ขณะที่เชลซีโชว์ฟอร์มเหนือชั้น เล่นกันได้อย่างลงตัวทุกจังหวะ เว็บวิเคราะห์บอล เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง เปแอสเชพยายามกลับเข้าสู่เกมทันที โดยเปิดเกมบุกอย่างดุดัน โรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารของเชลซีต้องออกแรงเซฟสองจังหวะสำคัญจากลูกยิงของอุสมาน เดมเบเล่ และวิตินญ่า เพื่อรักษาคลีนชีตไว้ได้ แม้เปแอสเชจะพยายามเร่งเกม แต่ระบบของเอ็นโซ มาเรสกา ยังคงแน่นหนาและเป็นระเบียบ จนทำให้ผู้เล่น PSG ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เหมือนที่เคยทำไว้ในรอบรองกับเรอัล มาดริด

โจเอา เนเวส

สิงห์บลูส์ปิดจ็อบตั้งแต่ครึ่งแรก จบเกมด้วยใบแดงและความเดือด

ครึ่งหลังของเกมนัดชิงชนะเลิศไม่มีประตูเพิ่มเติม แต่ความเสียหายที่เปแอสเชได้รับจากครึ่งแรกก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เชลซีการันตีชัยชนะ 3-0 พร้อมกับยกถ้วยแชมป์สโมสรโลกอย่างสง่างาม ในช่วงท้ายเกม เหตุการณ์ดุเดือดเกิดขึ้นเมื่อโจเอา เนเวส นักเตะของเปแอสเช โดนใบแดงจากจังหวะที่เขาดึงผมของมาร์ค คูคูเรลลา อย่างชัดเจน กลายเป็นภาพสัญลักษณ์ที่สะท้อนอารมณ์ของทีมที่กำลังหมดหวังและอารมณ์หลุด แม้เสียงนกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้นแล้ว แต่อุณหภูมิความร้อนแรงในสนามยังคงคุกรุ่น เรียกได้ว่าเป็นเกมนัดชิงที่เต็มไปด้วยทั้งความมันและความดราม่า


เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น บรรยากาศในสนามเม็ตไลฟ์ก็ระเบิดออกด้วยเสียงเฮแห่งชัยชนะ นักเตะและทีมงานของเชลซีวิ่งลงสนามเพื่อร่วมฉลองกับแฟนบอลอย่างสุดมันส์ ถ้วยแชมป์สโมสรโลกถูกยกขึ้นสูง เคียงข้างกับถ้วยยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่คว้ามาได้ก่อนหน้านี้ นี่คือฤดูกาลที่น่าทึ่งภายใต้การคุมทีมของเอ็นโซ มาเรสกา ซึ่งไม่เพียงพาทีมคว้าสองถ้วยรางวัลเท่านั้น แต่ยังจบฤดูกาลด้วยอันดับท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีก ส่งทีมกลับสู่เวทียูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ การเสริมทัพด้วยนักเตะคุณภาพในช่วงซัมเมอร์กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ผลักดันให้ “เดอะบลูส์” กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ และดูเหมือนว่านี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

ติดตามไฮไลท์และผลวิเคราะห์บอลคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่